ไม่ใช่บอลปรีซีซั่น : ทำไมสโมสรโลกจึงมีความสำคัญแก่สโมสรละตินอเมริกา?

Maruak Tanniyom

ไม่ใช่บอลปรีซีซั่น : ทำไมสโมสรโลกจึงมีความสำคัญแก่สโมสรละตินอเมริกา?  image

ปฏิเสธไม่ได้ว่าฟุตบอลสโมสรโลกในครั้งนี้ เต็มไปด้วยเสียงวิจารณ์มากมาย โดยเฉพาะความน่าสนใจของทัวร์นาเมนต์ ที่ทำให้บางเกมมีผู้ชมแค่หลัก 3,000 เท่านั้น 

อย่างไรก็ดี อาจจะไม่ใช่สำหรับสโมสรจากอเมริกาใต้ ที่ทั้งนักเตะและแฟนบอลต่างให้ความสำคัญและจัดเต็ม ไม่ต่างจากศึกชิงแชมป์ระดับทวีป หรือชิงแชมป์ลีกในประเทศของพวกเขา 

เพราะเหตุใดจึงเป็นเช่นนั้น? ติดตามไปพร้อมกัน 

ทัวร์นาเมนต์แห่งความภาคภูมิใจ 

แฟนบอลโบคา จูเนียร์ส ที่ต่างร้องรำทำเพลงกันอย่างคึกคักที่ชายหาดไมอามี หรือแฟนพัลไมรัส ร่วมฉลองกันที่จัตุรัสไทม์สแควร์ อาจจะเป็นบรรยากาศที่ไม่คุ้นตา สำหรับสโมสรโลก 2025 ที่เคยถูกปรามาสว่าเป็นทัวร์นาเมนต์แห่งความเงียบเหงา 

พวกไม่ได้เป็นกองเชียร์จัดตั้ง ไม่ได้เป็นหน้าม้า แต่สิ่งที่เกิดขึ้นมาจากแพชชั่นล้วนๆ และดูเหมือนว่าสิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นเฉพาะแฟนบอลของสโมสรจากอเมริกาใต้ ที่ดูจะมีอารมณ์ร่วมกับทัวร์นาเมนต์นี้มากทีสุด 

นั่นเป็นเพราะพวกเขารู้สึกยินดีที่ทีมรักของตัวเองได้ผ่านเข้ามาเล่นใน คลับ เวิลด์คัพ 2025 ที่นอกจากเงินรางวัลตอบแทนที่ค่อนข้างสูงแล้ว นี่ยังเป็นโอกาสในการจารึกประวัติศาสตร์ เหนือทีมจากยุโรป 

ย้อนกลับในอดีต สโมสรจากละตินอเมริกา ก็เคยฝากรอยแผลให้ทีมยุโรปไว้ไม่น้อย ไล่ตั้งแต่ พัลไมรัส ในปี 1951 ที่คว้าแชมป์ โคปา ริโอ ด้วยการเอาชนะ นีซ, เรดสตาร์ เบลเกรด และ ยูเวนตุส 

หรือในปี 1981 ที่ฟลาเมงโก เอาชนะ ลิเวอร์พูล ไปได้ 3-0 ในศึกอินเตอร์คอนติเนนทัลคัพ ที่เอาแชมป์ โคปา ลิเบอร์ตาดอเรส และ ยูโรเปียนคัพ มาดวลกัน   
 
“ในปี 1950 บราซิล แพ้ อุรุกวัย ในฟุตบอลโลก และนั่นก็คือผิดหวังครั้งใหญ่ แต่ในปี 1951 มันทำให้ความรู้สึกยินดีกลับมา และไม่ใช่แค่การฉลองของ พัลไมรัส แต่รวมไปถึงแฟนบอลของทีมอื่นด้วย” เปาโล โรแบร์โต ผู้นำกองเชียร์กลุ่ม Mancha Verde กล่าวกับ ESPN 

“จนถึงวันนี้ มันเป็นสิ่งที่เราให้คุณค่า เพราะว่ามันคือประวัติศาสตร์ คุณไม่สามารถลบประวัติศาสตร์ได้” 

ด้วยเหตุนี้จึงฟุตบอลสโมสรโลก กลายเป็นทัวร์นาเมนต์ที่สร้างความภาคภูมิใจให้แก่สโมสรจากอเมริกาใต้ ที่พวกเขาไม่ได้มาแค่เข้าร่วมเท่านั้น แต่ต้องไปให้ถึงแชมป์ 

“ทัวร์นาเมนต์นี้ได้นำทีมชั้นนำของโลกมาอยู่ด้วยกัน และมันก็เป็นเกียรติอีกครั้งที่ได้เห็นชื่อของ ริเวอร์เพลท อยู่ท่ามกลางดังๆ” สเตฟาโน ดิ คาร์โล เลขาธิการของ ริเวอร์เพลท กล่าว

“นี่เป็นครั้งที่ 3 ของเราที่ได้เข้าร่วมฟุตบอลสโมสรโลกในรอบ 10 ปีให้หลัง ซึ่งเป็นเครื่องยืนยันสถานะของเราในฐานะตัวแทนชั้นนำของทวีป” 

แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือการแสดงให้เห็นว่า แม้ว่าทีมจากยุโรป จะดึงตัวผู้เล่นฝีเท้าดีของพวกเขาไปอย่างต่อเนื่อง แต่สโมสรจากอเมริกาใต้ ก็ยังต่อกรกับยักษ์ใหญ่ของโลกได้อย่างสมน้ำสมเนื้อ 

ไม่ว่าจะเป็น โบคา จูเนียร์ส ที่เสมอกับ เบนฟิกา 2-2 แบบเกือบชนะ ฟลูมิเนนเซ ที่เสนอกับ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ แบบไม่เสียประตู 0-0 หรือล่าสุดที่ โบตาโฟโก พลิกล็อคเอาชนะ แชมป์ UCL อย่าง ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ไปได้ 0-1

“ผู้เล่นที่เคยเล่นให้ทีมเรา ตอนนี้เล่นให้ ลิเวอร์พูล แมนฯ ยูไนเต็ด” ฮวน พาโบล ปาเชโก หัวหน้ากลุุ่ม ริเวอร์เพลท เท็กซัส กล่าว

“เราเห็นพวกเขากำลังสดใสในการเล่นที่ยุโรป แต่ก็ลืมไปเลยว่าการเล่นในอเมริกาใต้เป็นอย่างไร เรากระตือรือร้นที่จะเล่นกับทีมเหล่านั้น และแสดงให้เห็นสิ่งที่เรายังมีอยู่ แม้ว่าผู้เล่นที่ดีที่สุดของเราจะย้ายไปอยู่ยุโรปหมดแล้ว” 

ทั้งนี้ นอกจากแพสชั่นแล้ว ยังมีเหตุผลอื่นที่สำคัญไม่แพ้กัน 

เผยแพร่ลัทธิ

สหรัฐฯ ถือเป็นประเทศแบบพหุวัฒนธรรมที่มีความหลากหลายประเทศหนึ่งของโลก แต่ละปีพวกเขาจะมีผู้อพยพเข้ามาในหลากหลายเหตุผล ทั้งทำธุรกิจ แสวงหาชีวิตที่ดีขึ้น ไปจนถึงลี้ภัยการเมือง และลี้ภัยสงคราม 

เช่นกันกับผู้คนจากละตินอเมริกา จากรายงานของ macrotrends.net ระบุว่า เมื่อปี 2024 มีผู้คนจากแคริบเบียน และอเมริกาใต้ อพยพมาสหรัฐฯ ถึง 378,000 คน 

ด้วยเหตุนี้การที่ฟุตบอลสโมสรโลก 2025 มาจัดที่สหรัฐฯ จึงมีความหมายแก่ชาวละตินไม่น้อย เพราะนี่คือโอกาสในการรวมญาติผ่านฟุตบอลอีกครั้งของพวกเขา 

“มันพิเศษมาก โดยเฉพาะสำหรับผม ผมเป็นรุ่นที่ 3 เริ่มจากพ่อที่เป็นแฟนพันธ์แท้ ฟาเมงโก ผม และลูกชายคนโตของผม เราเป็นแฟน 3 รุ่นของฟลาเมงโก” เรนาโต ซิลวา แฟนบอลฟลาเมงโก ที่อาศัยอยู่ในสหรัฐฯ กล่าว

“สำหรับผม มันจึงสำคัญมาก มันกลายเป็นส่วนหนึ่งของบทสนทนาในสังคม ผมคิดว่ามันสำคัญสำหรับเรายิ่งกว่าทีมจากยุโรป”

พวกเขายังคงติดตามผลงานของทีมในบ้านเกิดเสมอ แม้จะต้องอยู่ในต่างแดน และการได้มาเชียร์ทีมรักถึงขอบสนามในคลับเวิลด์คัพครั้งนี้ ก็เหมือนได้เจอกับเพื่อนเก่า 

“มันมีความหมายมากสำหรับเรา ที่ไม่ได้ออกมาต่างประเทศนานมาก” มาเรียโน บอสซานา ประธานสโมสรโบคา จูเนียร์ส ประจำกรุงวอชิงตันดีซี กล่าว

“มันไม่ใช่แค่ความพอใจ หรือการได้เห็น โบคา ลงเล่นอยู่ใกล้ๆ แต่เป็นความภาคภูมิใจที่ได้ลงแข่งกับสโมสรที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลก มันพา โบคา กลับมาอยู่ในเวทีระดับโลกอีกครั้ง”  

ขณะเดียวกันสำหรับสโมสร ยังทำให้พวกเขาได้มีโอกาสหาตลาดใหม่ เพราะนี่คือการได้เล่นต่อหน้าแฟนบอลทั้งโลก ไม่ใช่แค่ในสหรัฐฯ แต่ยังรวมไปถึงยุโรป, เอเชีย และ แอฟริกา 

อันที่จริง บางสโมสรก็เริ่มเปิดโซเชียลมีเดียในเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษไว้แล้ว หนึ่งในนั้นคือ ริเวอร์เพลท ที่เพิ่งจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา 

“การขยายธุรกิจไปต่างประเทศของ ริเวอร์เพลท ไม่ได้เป็นแค่เป้าหมายเท่านั้น แต่ต้องเป็นผลลัพท์จากการเติบโตสำคัญ นับตั้งแต่ปี 2013 สโมสรได้ผ่านการเปลี่ยนแปลงอย่างลงลึก เรามีรายได้ต่อปีเพิ่มขึ้นเกือบ 3 เท่า จาก 50 ล้านเหรียญ เป็น 180 ล้านเหรียญ” ดิ คาร์โล กล่าว 

“เส้นทางที่จะทำให้ ริเวอร์ เติบโตในทุกมิติ การเข้าร่วมสโมสรโลก จึงไม่ใช่จุดสิ้นสุด แต่เป็นอีกก้าวต่อไป สำหรับโครงการที่ยั่งยืน เพื่อทำให้ ริเวอร์ เป็นหนึ่งในสโมสรที่ยิ่งใหญ่ของโลก” 

สิ่งเหล่านี้คือแรงผลักดันที่ทำให้สโมสรจากละตินอเมริกา พยายามมุ่งไปข้างหน้า และเต็มที่กับมันในทุกเกม จนห่างไกลคำว่าเกมปรีซีซั่น และทำให้การแข่งขันที่เดิมดูหงอยเหงา มีสีสันขึ้นมาไม่น้อย 

บทความที่เกี่ยวข้อง

Maruak Tanniyom

ลีดส์ ยูไนเต็ด, ญี่ปุ่น, มังงะ